|
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการประทุของไฟฟ้าสถิต |
ประวัติและความเป็นมา |
ในช่วงทศวรรษที่ 90 เป็นที่จดจำกันว่าเป็นทศวรรษที่มีการแข่งขันในเรื่อง การปรับปรุงและการควบคุม |
คุณภาพ ของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ การแข่งขันที่เริ่มขึ้น ทำให้เรื่อง six-sigma และ ISO9000 มีผลบังคับ |
ให้เกิดความมุ่งมั่นพัฒนาในด้านการปรับปรุงและการควบคุมคุณภาพของบริษัทต่างๆ แม้กระทั่งบริษัทเหล่านั้น |
จะไม่เต็มใจถ้าเรามองไปรอบๆ เรื่องการปรับปรุงและการควบคุมคุณภาพเกี่ยวกับเรื่องการประทุของไฟฟ้าสถิต |
(Electrostatic Discharge) หรือ ESD ยังเป็นเป้าหมายหรือกุญแจสำคัญเรื่องหนึ่งสำหรับการพัฒนา |
ไฟฟ้าสถิตเป็นปัญหากับอุตสาหกรรมมานานหลายศตวรรษแล้ว ในช่วงต้นๆของปี ค.ศ. 1400 ชาวยุโรป |
และชาวแคริเบียน ได้ใช้วิธีการควบคุมไฟฟ้าสถิต และอุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้าสถิต เพื่อป้องกันปัญหาไฟฟ้าสถิต |
ไปจุดระเบิดเขม่าดินดำหรือดินปืน ในช่วงต้นทศวรรษ 1860 โรงผลิตกระดาษในสหรัฐอเมริกาได้ใช้การกราวด์ |
แบบพื้นฐานง่ายๆ และใช้ถังไอน้ำพ่นไอน้ำเพื่อทำให้เกิดการถ่ายเทประจุไฟฟ้าสถิต อย่างช้าๆ เรียกว่า dissipate |
จากกระดาษที่มีไฟฟ้าสถิตขณะที่มันเคลื่อนตัวผ่านขบวนการอบแห้ง ยุคอิเล็กทรอนิกส์มีปัญหาเรื่องไฟฟ้าสถิต |
และ การประทุของไฟฟ้าสถิตเพราะว่ายิ่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานได้เร็วเท่าไร เล็กลงเท่าไรความเปราะ |
บางต่อการประทุของไฟฟ้าสถิต (sensitivity to ESD) ก็ยิ่งเพิ่มขึ้น |
ในปัจจุบันผลกระทบจากไฟฟ้าสถิตได้เกิดขึ้นต่อกำลังการผลิตหรือผลผลิตและความเชื่อถือหรือการคง |
คุณภาพของผลิตภัณฑ์ในระยะยาว ( product reliability ) ความรู้เรื่องการควบคุมไฟฟ้าสถิตใน อุตสาหกรรม |
อิเล็กทรอนิกส์หลายอย่างได้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่น เช่น อุตสาหกรรม cleanroom หรือห้องสะอาด และ |
อุตสาหกรรมทำกราฟิคอาร์ตถึงแม้ว่ามนุษย์เราจะเพิ่มความพยายามในการจัดการเรื่องปัญหาไฟฟ้าสถิตใน |
ทศวรรษที่ผ่านมามากมาย อย่างไรก็ตาม ESD ก็ยังเป็นปัญหาที่มีผลกระทบต่อเปอร์เซ็นต์ของดีที่ได้จาก |
การผลิต (production yields) เช่น ผลิตของ 100 ตัว ทดสอบแล้วได้ของดี 98 ตัว เรียกว่า yields 98% ซึ่งมีผล |
ต่อต้นทุนของการผลิต มีผลต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์มีผลต่อ การคงคุณภาพของผลิตภัณฑ์ในระยะยาว และ |
ในท้ายที่สุดก็มีผลกระทบ ต่อผลกำไร ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมได้ประมาณการไว้ว่าไฟฟ้าสถิตทำให้เกิด |
ความเสียหาย อยู่ในช่วง8-33 เปอร์เซ็นต์ จาก(ตารางที่ 1) ผู้เชี่ยวชาญ หลายท่านได้ประมาณการ ความเสียหาย |
จากการประทุของไฟฟ้าสถิต (ESD damage) ในวงการอิเล็กทรอนิกส์ ว่าอยู่ในช่วงพันล้านเหรียญสหรัฐต่อปี |
(ตารางที่ 2) มูลค่าของอุปกรณ์ที่เสียหายต่อตัว อาจจะมีมูลค่าเพียงไม่กี่เซ็นต์ สำหรับ ไดโอด (diode) |
แบบง่ายๆ หรือแม้กระทั่งหลายร้อยดอลลาร์สหรัฐ สำหรับอุปกรณ์ประเภท ไฮบริด (hybrids) แบบซับซ้อน |
แต่เมื่อรวมราคาของการซ่อมหรือการสับเปลี่ยน การขนส่งค่าแรง และค่าโสหุ้ย เข้าไปด้วย จะเห็นว่า |
ความเสียหายมีมูลค่ามากมาย |
|
|